รมว.ศธ.ยืนยันให้ความสำคัญโครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น พร้อมหารือผู้บริหาร ศธ.จัดสรรครูธุรการ

(1 ตุลาคม 2562) นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงข้อกังวลของสังคมเกี่ยวกับกรณี “โครงการผลิตครูเพื่อพัฒนาท้องถิ่น” ว่า ศธ.มีนโยบายให้ความสำคัญเรื่องการนำครูสู่ถิ่นบ้านเกิดอยู่แล้ว ซึ่งต้องพิจารณาความเหมาะสมของตำแหน่งที่จะลงในแต่ละพื้นที่ โดยดูว่าโรงเรียนมีคุณภาพหรือไม่ หากส่งครูคืนถิ่นกลับไปแล้วจะทำงานตรงสายงานหรือไม่ ซึ่งหากสอดคล้องกันก็อยากพิจารณาให้ครูคืนถิ่นเป็นอันดับต้น ๆ เนื่องจากสามารถสร้างประโยชน์ได้มาก คาดว่าหลังจากการประชุม ก.ค.ศ. ในวันที่ 2 ต.ค.62 จะมีคำตอบที่ชัดเจนขึ้น

ส่วนกรณีครูธุรการเรียกร้องขอปรับสถานภาพอัตราจ้างปฏิบัติงาน “ธุรการโรงเรียน” เป็น “พนักงานราชการ” นั้น ศธ.ได้มีการหารือร่วมกับ ผอ.สำนักงบประมาณในวันนี้ว่า เรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับอัตรากำลังที่มีอยู่ใน ศธ. ซึ่งจะนำข้อมูลทั้งหมดมาพิจารณาดูว่ามีความเหมาะสมอย่างไรบ้าง อัตรากำลังที่ควรจะลงแต่ละโรงเรียนเป็นอย่างไร โดยขณะนี้ข้อมูลอัตรากำลังที่เหมาะสมยังไม่ครบถ้วน แต่ได้ตั้งเป้าว่าจะพยายามทำเรื่องนี้ให้จบภายในระยะเวลา 1 เดือน ในช่วงที่โรงเรียนปิดเทอม เพื่อจะได้บริหารจัดการตามอัตรากำลังครูที่มีอยู่ ทั้งในส่วนของครูอัตราจ้างและครูที่ขึ้นบัญชีไว้ มั่นใจว่าหากได้ข้อมูลที่ละเอียดจริง ๆ จะไม่เกิดปัญหาในการวางแผนอัตรากำลังของ ศธ. ทั้งนี้ไม่อยากให้มีการเคลื่อนไหวหรือมากดดันในสิ่งที่ ศธ.กำลังพยายามดำเนินการให้อยู่แล้ว

ส่วนด้านการจัดหลักสูตรทวิภาคี จากเหตุการณ์นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิตหลายรายนั้น ต้องยอมรับว่าเรายังไม่มีบริษัทเอกชนที่อยู่ใกล้กับสถานศึกษาอย่างเพียงพอ เป็นเรื่องที่ต้องมาพิจารณาความเหมาะสมระหว่างวิชาที่เรียนกับบริษัทที่รับทำงาน ซึ่ง สอศ.กำลังดูว่าจะสามารถบริหารจัดการศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่ใกล้สถานศึกษาในแต่ละวิชาที่เหมาะสมได้อย่างไร เบื้องต้นวางแนวทางไว้ 17 ธุรกิจที่จะใช้เป็นหลักเพื่อตอบสนองความต้องการของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และความต้องการของตลาด หลังจากนั้นจะค่อย ๆ ขยายกลุ่มธุรกิจเพิ่มเติม โดยไม่ต้องการให้ที่ตั้งไกลจากสถานศึกษามาก ทั้งนี้จะมอบหมายให้ สอศ.วางแผนเรื่องดังกล่าวต่อไป

ขอบคุณข้อมูลจาก

ปารัชญ์ ไชยเวช / สรุป
กลุ่มสารนิเทศ สอ.สป.